Day: October 9, 2025

การอ่านค่า วิเคราะห์และใช้งานใบรายงานผลการสอบเทียบด้านความดัน (ตอนที่ 1)

การสอบเทียบเครื่องมือวัดด้านความดันคือการหาความสัมพันธ์ระหว่างผลการวัดความดันเครื่องมือที่รับการสอบเทียบกับค่าความดันมาตรฐาน (ที่ได้จากเครื่องมือมาตรฐาน) เพื่อใช้ในการตัดสินว่าเครื่องมือวัดดังกล่าวนั้นสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ของงานนั้นๆ ได้ต่อไปหรือไม่และใช้เป็นเครื่องมือสำหรับควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิตหรือการบริการ ดังนั้นการสอบเทียบจึงมีความสำคัญในการบวนการผลิตและบริการซึ่งจะกระทำโดยหน่วยงานหรือห้องปฏิบัติการสอบเทียบที่มีขีดความสามารถเหมาะสมกับเครื่องมือนั้นๆ และจะรายงานผลการสอบเทียบมาในรูปแบบของใบรายงานผลการสอบเทียบหรือที่เรียกว่า Calibration certificate ซึ่งจะเป็นการรายงานถึงความสัมพันธ์ของผลการวัดความดันของเครื่องมือนั้นกับค่าความดันมาตรฐาน หรือที่เรียกกันว่าค่าความคลาดเคลื่อน (error) แต่ทั้งนี้ในใบรายงานผลการสอบเทียบยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และนำผลการสอบเทียบนั้นไปใช้งาน การทำความเข้าใจในใบรายงานผลสอบเทียบ การวิเคราะห์และการที่จะนำข้อมูลในใบรายงานผลการสอบเทียบมาใช้ประโยชน์นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานเครื่องมือวัด แต่บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานพบเจอปัญหาคือเมื่อสอบเทียบเครื่องมือวัดแล้ว จะตีความใบรายงานผลการสอบเทียบอย่างไร ข้อมูลใดบ้างที่สำคัญต่อการนำผลการสอบเทียบดังกล่าวไปใช้งานต่อ และจะทำการวิเคราะห์ผลการสอบเทียบนั้นอย่างไร ดังนั้นในบทความนี้จะกล่าวถึงการอ่านค่า วิเคราะห์ผลและนำผลในใบรายงานผลการสอบเทียบในด้านความดันไปใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้ใช้งานเครื่องมือใช้ผลการสอบเทียบได้อย่างถูกต้องเหมาะสม  ในตอนที่ 1 นี้จะกล่าวถึงส่วนประกอบหลักในใบรายงานผลการสอบเทียบด้านความดันที่ควรจะมีซึ่งจะสอดคล้องกับในข้อกำหนดทางระบบคุณภาพ ISO/IEC 17025 ด้วยดังนี้ หมายเลขใบรายงานผลการสอบเทียบ ชื่อที่อยู่ของห้องปฏิบัติการสอบเทียบ ชื่อที่อยู่ของลูกค้าที่ส่งเครื่องมือมาสอบเทียบ รายละเอียดของเครื่องมือที่รับการสอบ วิธีการสอบเทียบหรือมาตรฐานทีใช้ในการสอบเทียบ วันที่ทําการสอบเทียบ วันทีออกใบรายงานผล ความสามารถในการสอบกลับได้ Measurement traceability หมายเลขใบรายงานผลทุกหน้า หมายเลขหน้าและจำนวนหน้าทั้งหมด ลายเซ็นต์ของผู้ทำการสอบเทียบและผู้มีอํานาจในการออกใบรายงานผล สภาวะแวดล้อมในการทําการสอบเทียบ ผลการสอบเทียบหน่วยในการวัด ค่าความไม่แน่นอนในการวัด สัญลักษณ์แสดงการได้รับการรับรองระบบคุณภาพ  เป็นต้น รายละเอียดต่างๆ ตัวอย่างใบรายงานผลการสอบเทียบ รวมทั้งการวิเคราะห์ผลการสอบเทียบและการนำไปใช้งานจะกล่าวในตอนถัดไป Copyright c Thai Heart Calibration Co.,Ltd.บทความ

Read More »

การวิเคราะห์รากปัญหา (Root Cause Analysis (RCA))

การวิเคราะห์รากปัญหา 1. การวิเคราะห์รากปัญหา ผู้สืบสวนหารากปัญหาจะต้องมองไกลกว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ผู้สืบสวนหารากปัญหาจะต้องเข้าใจสาเหตุแท้จริงของปัญหา เพื่อที่จะป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำในเรื่องเดิม 2. ประโยชน์การวิเคราะห์รากปัญหา ได้วิธีการแก้ปัญหาอย่างถาวร ป้องกันการเกิดความผิดพลาดซ้ำในเรื่องเดิมๆ เป็นการริเริ่มนำกระบวนการแก้ปัญหาอย่างมีตรรกะไปใช้แก้ปัญหาความไม่สอดคล้องไม่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่หรือเล็ก 3. ขั้นตอนวิเคราะห์รากปัญหาโดยทั่วไป จำกัดความของปัญหาหรือความไม่สอดคล้องที่เกิดขึ้น (รู้และเข้าใจเสียก่อนว่าความไม่สอดคล้องคืออะไร เป็นอย่างไร) สืบสวนหารากปัญหา สร้างแผนปฏิบัติการ ระบุระยะเวลาในการปฏิบัติการ ระบุผู้รับผิดขอบดำเนินการ (การปฏิบัติการมุ่งเน้นที่ทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ) ปฏิบัติการตามแผนและระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ตรวจสอบความใช้ได้/ประสิทธิผลของการปฏิบัติการแก้ปัญหา รวมทั้งคอยตรวจสอบว่าได้มีการปฏิบัติตามวิธีการหรือขั้นตอนที่ได้มีการกำหนดให้ทำอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ หมายเหตุ : ตลอดทั้งขั้นตอนการวิเคราะห์รากปัญหา สิ่งสำคัญคือ ต้องการหาคำตอบว่า ระบบ ขั้นตอน หรือ นโยบายใด ที่ล้มเหลวจึงทำให้เกิดปัญหาหรือความไม่สอดคล้องตามข้อกำหนดขึ้น 4. เทคนิคที่นิยมใช้ในการวิเคราะห์รากปัญหา การตั้งคำถาม “ทำไม 5 คำถาม” (The 5 Whys) เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการวิเคราะห์รากปัญหา โดยเป็นวิธีการตั้งคำถามเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลที่ก่อให้เกิดปัญหา ผู้สืบสวนตั้งคำถาม “ทำไม” จนกว่าจะพบข้อสรุปที่ดีที่สุด โดยปกติจะถาม “ทำไม” อย่างน้อยประมาณ 5 ครั้ง แต่จริงๆ

Read More »
Scroll to Top